วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สังขยาฟักทอง

สังขยาฟักทอง
 เครื่องปรุง + ส่วนผสม
 * ฟักทอง 1 ลูก (น้ำหนักประมาณ 400 - 600 กรัม)
 * ไข่่ 4 ฟอง
 * หัวกะทิ 3/4 ถ้วยตวง
 * น้ำตาลปิ๊บ 1/4 ถ้วยตว
 * แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
 * เกลือป่น 1/4 ช้่อนชา
 * น้ำปูนใส
 วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอ
1. นำฟักทองมาตัดออกเป็นสี่เหลี่ยมบริเวณหัวขั้วจากนั้นจึงขวักเมล็ดข้างในออก จนกลวงเป็นช่องภายใน จากนั้นจึงนำไปน้ำปูนใสประมาณ 8 - 10 นาที แล้วจึงนำออกมาสะเด็ดน้ำ (เคล็ดลับ : แช่น้ำปูนใสเพื่อไม่ให้ฟักทองแตกเวลานึ่ง)
2. ระหว่างรอฟักทองที่แช่ในน้ำปูนใส เตรียมทำสังขยาโดยผสมไข่ไก่, หัวกะทิ , แป้งข้าวเจ้า, น้ำตาลปิ๊บ และเกลือ คนจนส่วนผสมเข้ากันดี
3. นำส่วนผสมสังขยาที่ทำในขั้นตอนที่สองเทลงในฟักทอง จากนั้นจึงนำไปนึ่งประมาณ 20 - 25 นาที กรณีเสริฟเป็นลูกฟักทอง ก็นำฝาที่ตัดออกไปนึ่งด้วย
 ถ้าแบ่งเสริฟก็หั่นเป็นชิ้นๆ เพื่อความสวยงามและน่ารับประทาน เวลาหั่นควรระวังไม่ให้สังขยาเละ ขอบคุณที่มา : ezythaicooking.com

ขนมถ้วย

ขนมถ้วย
 เครื่องปรุง + ส่วนผสม ส่วนผสมทำตัวขนมถ้วย
 * แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
 * แป้งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
 * หางกะทิ 1 ถ้วย 
* น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
 * น้ำใบเตย 1/4 ถ้วย ส่วนผสมทำหน้าขนม
* แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
 * หัวกะทิ 1 ถ้วย
 * เกลือ 1/2 ช้อนชา 
วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
 1. เตรียมทำตัวขนมโดย นำหางกะทิไปผสมกับแป้งข้าวเจ้า, แป้งเท้ายายม่อม, น้ำตาลปี๊บและน้ำใบเตย นวดจนเข้ากันดี นำไปกรองด้วยผ้าข้าวบางและพักไว้
 2. เตรียมทำหน้าขนมโดยนำหัวกะทิผสมกับแป้งข้าวเจ้าและเกลือ คนจนละลายดีจึงนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง และทิ้งไว้
3. ตั้งหม้อนึ่งรอจนน้ำเดือดจึงเรียงถ้วยตะไลลงไป นึ่งจนถ้วยตะไลร้อน จึงเริ่มหยอดตัวขนม (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1) ลงไปประมาณ 3/4 ถ้วยตะไล จากนั้นจึงปิดฝาหม้อและนึ่งทิ้งไว้ประมาณ 3 - 5 นาที จากนั้นจึงหยอดหน้าขนม (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 2) ลงไปในถ้วยตะไล จนเต็มและนึ่งต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
 4. รอจนเย็นแล้วจึงนำไปเสริฟ เวลาเสริฟสามารถเสริฟทั้งถ้วยตะไล หรือใช้ไม้พายแคะออกจากถ้วยแล้วจัดเรียงใส่จาน
 ขอบคุณที่มา : ezythaicooking.com


ทับทิมกรอบ

ทับทิมกรอบ
 เครื่องปรุง
 แห้วต้ม หรือมันแกว หั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก 1 ถ้วย (ถ้าแห้วดิบ 300 กรัมได้ 40 เม็ด)
แป้งมัน 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 150 กรัม
น้ำทำน้ำเชื่อม 3/4 ถ้วย
 - มะพร้าวขูดขาว 250 กรัม
 น้ำแข็ง สีผสมอาหารสีแดง เขียว
 วิธีทำ
 1. ละลายสีแดง เขียว อย่างละถ้วยกับน้ำเล็กน้อยแช่แห้วพอติดสีตักขึ้น คลุกแป้งมันให้ติดมาก ๆ ใส่กระชอนร่อนให้แป้งที่ไม่ติดร่วง ใส่น้ำตาลทรายและน้ำลงในกระทะทองเหลืองตั้งไฟ พอเดือดลดไฟเคี่ยวพอน้ำเชื่อมข้น
 2. ต้มน้ำ 5 ถ้วยให้เดือด ลวกเม็ดทับทิมพอลอย3 นาที ตักใส่น้ำเย็น ตักใส่ผ้าขาวบางห่อไว้
3. คั้นมะพร้าวใส่น้ำ 1/4 ถ้วย คั้นให้ได้ 3/4 ถ้วย
4. ผสมน้ำเชื่อมกับกะทิ เวลารับประทานตักใส่ในถ้วยเม็ดทับทิม ใส่น้ำแข็ง : แบ่งน้ำเชื่อมออกมาครึ่งหนึ่ง ใส่ในอ่างใส่ทับทิมกรอบ เพื่อไม่ให้ทับทิมติดกัน แล้วจึงเอาน้ำเชื่อมที่เหลือใส่ผสมกับกะทิ : ตักทับทิมใส่ถ้วยประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำเชื่อมผสมกะทิ ใส่น้ำแข็ง
 ขอบคุณที่มา : horapa.com


ขนมถั่วแปบ


ขนมถั่วแปบ 
เครื่องปรุง + ส่วนผสม 
* แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
 * น้ำลอยดอกมะลิหรือน้ำใบเตยข้น 1/2 ถ้วยตวง
 * เนื้อมะพร้าวขูด 1 ถ้วยตวง 
* ถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุก 2 ถ้วยตวง
 * น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ 
* งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
 * สีผสมอาหาร (สีตามความชอบ)
 * เกลือป่น
 วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
 1. เตรียมทำไส้ถั่วโดย นำถั่วเขียวเลาะเปลือกไปแช่ด้วยน้ำร้อนประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก พักทิ้งไว้ (แบ่งถั่วนึ่งออกเป็น สองส่วน ส่วนที่หนึ่งใช้ใส่ไส้ และส่วนที่สอง ใช้คลุกกับขนมที่ห่อไส้แล้ว)
2. นำมะพร้าวขูดไปผสมกับเกลือป่นเล็กน้อย และนำไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 3 - 5 นาทีให้นุ่มจึงปิดไฟ พักไว้
 3. นำแป้งข้าวเหนียวไปนวดกับน้ำลอยดอกมะลิ (หรือน้ำใบเตย)จนเนื้อเนียนเข้ากันทั่ว แบ่งเป็นสัดส่วนตามจำนวนสีที่ต้องการ จากนั้นจึง ใส่สีผสมอาหารลงไป (ควรใช้โทนอ่อนจะน่ารับประทานมากกว่าสีเข้ม ) แล้วจึงนวดอีกครั้งจนสีกับแป้งเข้ากันดี แบ่งปั้นเป็นก้อนกลม (เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว) แล้วกดให้แบน ระหว่างปั้นให้นำผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ มาคลุมไว้ก่อน
4. ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่แป้งที่ปั้นไว้ลงไป เมื่อแป้งสุกจะลอยขึ้น ใช้ทัพพีที่มีรูตักออกมาจากหม้อ แล้วนำไปคลุกกับมะพร้าวขูดที่นึ่งเตรียมไว้ในขั้นตอนที่สอง จากนั้นจึงบีบแป้งให้แบน ใส่ไส้ถั่วลงไป พับครึ่ง กดปลายทั้งสองข้างให้สนิท แล้วนำไปคลุกกับมะพร้าวขูดและถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุก (ส่วนที่เตรียมไว้สำหรับคลุก)
5. จัดใส่จาน โรยหน้าด้วยงาขาวคั่วและน้ำตาล พร้อมเสริฟเป็นของว่างได้ทันที
 ขอบคุณที่มา : ezythaicooking.com

เยลลี่สตรอว์เบอร์รี่สด

เยลลี่สตรอว์เบอร์รี่สด
 ส่วนประกอบ
  สตรอว์เบอร์รี่ผลใหญ่ และผงเยลลี่สำเร็จรูปรสที่ชอบ (ในสูตรใช้รสเลมอน)
 วิธีทำ
  ล้างผลสตรอว์เบอร์รี่ให้สะอาดซับให้แห้ง ตัดขั้วออก แล้วละลายผงเยลลี่ตามสูตรข้างกล่องแต่ใส่น้ำให้น้อยกว่าในสูตรประมาณ ½ ถ้วย ต่อ 1 กล่อง 
จากนั้นใส่ผลสตรอว์เบอร์รี่ลงในพิมพ์ที่จะใช้ เทเยลลี่ตามลงไป (ถ้าส่วนผสมเยลลี่ยังร้อน ก็รอให้หายร้อนก่อนแล้วค่อยเทลงผลไม้) นำเข้าตู้เย็นจนกว่าจะอยู่ตัว
 เสิร์ฟพร้อมวิปครีม และไอศกรีมยิ่งอร่อย
 สูตรอาหาร ธิดารัตน์ นุตาคม สไตล์ มัทนา สนิทวงศ์ ภาพ โรบินฮู้ด ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Livingetc ฉบับภาษาไทย

ร็อคกี้โร้ด บราวนี่

ร็อคกี้โร้ด บราวนี่ 
ร็อกกี้โร้ด บราวนี่ ใช้ถาดสี่เหลี่ยม ๙ คูณ ๙ นิ้ว
 ปูด้วยกระดาษไข ให้เหลือขอบกระดาษไขสูงขึ้นมาตรงขอบถาดด้วยนะคะ
 อบเสร็จแล้วจะได้ยกบราวนี่ออกมาจากถาดได้ง่ายๆ
 อบไฟ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮต์ 
แป้งสาลีเอนกประสงค์ ๓/๔ ถ้วยตวง
 ผงฟู ๑ ช้อนชา
 เกลือ ๑/๔ ช้อนชา
 เซมิ-สวีทช็อคโกแล็ตชิพ ๑๗๐ กรัม
 น้ำตาลทรายขาว ๑/๒ ถ้วยตวง
 น้ำตาลทรายแดง ๑/๓ ถ้วยตวง
 ไข่ไก่ ๒ ฟอง
 เนยจืด ๙๐ กรัม
 กาแฟผง ๒ ช้อนชา
 วานิลา ๑ ช้อนชา 
ส่วนที่สอง สำหรับโรยหน้า
 มินิมาร์ชเมลโล ๑ ถ้วยตวง
วอลนัทสับหยาบๆ ๓/๔ ถ้วยตวง
 เซมิ-สวีทช็อคโกแล็ตชิพ ๑/๒ ถ้วยตวง 
วิธีทำ
 ๑.ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ เข้าด้วยกัน พักไว้ก่อน
 ๒.ละลายช็อคโกแล็ตชิพ เนย กาแฟผง และน้ำตาลทั้งสองชนิดเข้าด้วยกันโดยการทำ double boiler คือเอาอ่างผสมวางซ้อนบนหม้อที่มีน้ำอยู่ก้นหม้อ น้ำต้องร้อนแต่ไม่ให้ทำให้น้ำเดือดนะคะ ใช้ไฟอ่อนๆ ๓.เมื่อส่วนช็อคโกแล็ตกับเนยละลายแล้วก็ยกอ่างผสมลงจากหม้อน้ำตาลยังเป็นเม็ดๆอยู่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ตอกไข่ใส่ลงไปทั้งสองฟองใส่วานิลาลงไปแล้วคนส่วนผสมให้เข้ากันดี
 ๔.ใส่ส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้แล้วลงไปในอ่างช็อคโกแล็ตตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน ห้ามคนแรงๆนะคะ ส่วนผสมจะข้นๆหนืดๆ ปาดขอบอ่างด้วยนะคะ
 ๕.เทส่วนผสมใส่ในถาดสี่เหลี่ยม ๙ คูณ ๙ นิ้วเกลี่ยหน้าส่วนผสมให้เสมอกัน เคาะถาดเบาๆสักสองทีนำเข้าเตาอบ อบนาน ๒๐ นาที หรือจนบราวนี่สุกดีแล้วแต่เตาอบแต่ละบ้านด้วยนะคะ ต้องเช็คดูด้วยค่ะ สุกแล้วค่ะ หน้ากรอบๆ เอาออกจากเตาอบ วางบนตะแกรงตอนนี้ปิดเตาอบอุณหภูมิ ๓๕๐Fได้ และเปิดไฟบนรอไว้แทน
 ๖.โรยด้วยมาร์ชเมลโล่ วอลนัทสับหยาบๆ และช็อคโกแล็ตชิพให้ทั่ว
 ๗.นำถาดร็อคกี้โร้ด บราวนี่เข้าเตาอบอีกครั้งตอนนี้แนะนำให้ดูอย่างใกล้ชิดเลยค่ะ ห้ามคลาดสายตามาร์ชเมลโลไหม้เร็วมากพอหน้ามาร์ชเมลโลเริ่มเหลืองๆ ก็ปิดเตาอบได้ทันที และยกถาดบราวนี่ออกจากเตาอบ พักบนตะแกรงจนถาดเริ่มคลายความร้อน
 ๘.พอบราวนี่เย็นสนิทก็เอาออกจากถาด ค่อยๆดึงกระดาษไขออก
 ๙.ใช้มีดคมๆทาน้ำมันบางๆ ตัดบราวนี่ฉับๆๆเลยค่ะถ้าตัดสี่เหลี่ยมชิ้นกำลังดีก็ได้ทั้งหมด ๑๖ ชิ้นแม่ปูเคยเห็นในหนังสือเค้าตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยมน่ารักดีเลยเอามั่ง ก้อนสี่เหลี่ยมที่เราตัดไว้ นำมาตัดครึ่งให้เป็นชิ้นสามเหลี่ยมจะได้ร็อคกี้โร้ด บราวนี่ทั้งหมด ๓๒ ชิ้นค่ะ เวลาจะตัดนี่ต้องแน่ใจว่าบราวนี่เย็นจริงๆนะคะไม่อย่างนั้นมาร์ชเมลโลจะยืดติดมีด 
เนื้อบราวนี่ก็เละไม่สวยค่ะถ้ามีดเริ่มมีคราบขนมติดมากก็เช็ดทำความสะอาดแล้วก็ทาน้ำมันบางๆอีกครั้งแล้วจึงตัดจนเสร็จค่ะ 
 ที่มาจาก : bloggang.com

วุ้นไข่ดาวลอยแก้ว

วุ้นไข่ดาวลอยแก้ว
 สิ่งที่ต้องเตรียม (สำหรับการทำวุ้นไข่แดง)
 ผงวุ้นสำหรับทำขนม ตรานางเงือก 1 ช้อนโต๊ะ
 น้ำ 500 กรัม
 เกลือป่น 1/8 ช้อนชา 
วานิลลาชนิดผง 1/8 ช้อนชา
 ใบเตย 2 ใบ
 น้ำตาลทราย 100 กรัม
 สีผสมอาหารสีส้ม 1/8 ช้อนชา
 แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
 น้ำสำหรับละลายแป้ง 1 ช้อนโต๊ะ
 วิธีทำ (สำหรับการทำวุ้นไข่แดง)
  ละลายผงวุ้นสำหรับทำขนม ตรานางเงือกกับน้ำ
 เกลือป่นและ วานิลลาชนิดผงเข้าด้วยกัน
 ใส่ใบเตย นำขึ้นตั้งไฟ ต้มจนเดือด เติมน้ำตาลทราย คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย
 ใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำ คนผสมไว ๆ จนเดือดทั่วดี
 ตักใส่พิมพ์ทรงกลมพักไว้จนวุ้นทรงตัวดี จึงแคะวุ้นออกจากพิมพ์ เตรียมไว้
 สิ่งที่ต้องเตรียม (สำหรับการทำวุ้นไข่ขาว) 
ผงวุ้นสำหรับทำขนม ตรานางเงือก 1 ช้อนโต๊ะ
 น้ำ 500 กรัม
 เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
 วานิลลาชนิดผง 1/8 ช้อนชา
 ใบเตย 2 ใบ
 น้ำตาลทราย 100 กรัม
 วิธีทำ (สำหรับการทำวุ้นไข่ขาว)
 ละลายผงวุ้นสำหรับทำขนม ตรานางเงือกกับน้ำ เกลือป่นและ วานิลลาชนิดผงเข้าด้วยกัน
 ใส่ใบเตย นำขึ้นตั้งไฟ ต้มจนเดือด เติมน้ำตาลทราย คนผสมจนน้ำตาลทรายละลายจึงยกลง
 ตักส่วนผสมวุ้นใส่ลงในพิมพ์ ให้มีความสูงประมาณ ครึ่งเซนติเมตร เรียงวุ้นไข่แดงพักไว้จนวุ้นทรงตัวดี
 ใช้พิมพ์รูปดอกไม้กดวุ้นให้มีลักษณะคล้ายไข่ไก่สดตอกออกจากเปลือกไข่
 - เมื่อจะรับประทานตักวุ้นใส่ถ้วย เติมส่วนผสมน้ำเชื่อมและน้ำแข็งบดละเอียด รับประทาน ได้ทันที
 สิ่งที่ต้องเตรียม (สำหรับการทำส่วนผสมน้ำเชื่อม) 
น้ำตาลทราย 400 กรัม 
เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
 วานิลลาชนิดผง 1/8 ช้อนชา
 น้ำ 2 ถ้วยตวง 
ใบเตย 3 ใบ
 น้ำแข็งบดตามต้องการ
 วิธีทำ 
 ละลายน้ำตาลทราย เกลือป่นและวานิลลาชนิดผง กับน้ำเข้าด้วยกัน ใส่ใบเตยคนผสมให้ ละลาย นำขึ้นตั้งไฟ ต้มจนเดือด จึงยกลงพักไว้จนเย็นสนิท เตรียมไว้

 ที่มาจาก: archeep.com

ขนมเรไร

ขนมเรไร
 ขั้นตอนการทำ
 นวดแป้งทั้งสองชนิดกับน้ำลอยดอกมะลิ ค่อย ๆ ใส่น้ำ นวดจนเข้ากัน ใส่กระทะทองตั้ง ไฟกวนไฟปานกลาง จนกระทั่งแป้งจับตัวเป็นก้อน ไม่ติดกระทะ ยกลงผึ่งให้เย็น แบ่งแป้งใส่สีอ่อน ๆ ตามชอบ นวดให้เข้ากัน ปั้นก้อนกลมขนาด 1 1/2 นิ้ว วางบนพิมพ์ ขนมเรไร กดแป้งให้เป็นเส้น ใช้ส้อมตะล่อมเบา ๆ ให้ขนมเป็นก้อน ใช้พายยางแตะกะทิ แซะออก เรียงขนมในลังถึงที่ปูผ้าขาวบาง นึ่งในน้ำเดือด ประมาณ 3-5 นาที นำหัวกะทิ 2 ถ้วย ตั้งไฟพอเดือด จัดขนมใส่จานโรยด้วยมะพร้าวทึมทึก กะทิ งาคั่วบุบ ผสมเกลือ 
น้ำตาล
ส่วนผสม โรยหน้า
 แป้งข้าวเจ้า 4 ถ้วยตวง
 มะพร้าวทึมทึกขูด 1 ลูก
 แป้งท้าว 1/2 ถ้วยตวง 
กะทิข้น ๆ 2 ถ้วยตวง
 น้ำลอยดอกมะลิ 4 ถ้วยตวง
 งาคั่วบุบ 3/4 ถ้วยตวง
 สีผสมอาหารเช่น สีชมพู เขียว เหลือง
 น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วยตวง เกลือป่น 1 ช้อนชา
 ที่มาจาก : .tipfood.com 

ช็อกบอล

ช็อกบอล 
ส่วนผสม
 เค้กช็อกโกแลต 300 กรัม
 โกโก้ผง 50 กรัม
 บัตเตอร์ครีม 100 กรัม
 น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
 ช็อกโกแลต (สำหรับเคลือบหน้า)
 วิธีทำ
 บดเนื้อเค้กช็อกโกแลตให้ละเอียดด้วยช้อนส้อม ผสมเนื้อเค้กที่บดละเอียดกับบัตเตอร์ครีม น้ำตาลไอซิ่ง โกโก้ผง นวดเข้าด้วยกันจนเนื้อขนมเนียนดี ปั้นขนมเป็นก้อนกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว ตุ๋นช็อกโกแลตจนละลาย นำขนมที่ปั้นไว้ชุบช็อกโกแลตจนทั่วด้านหน้าของขนม นำใส่กระทงฟอยล์พักไว้ในตู้เย็นจนช็อกโกแลตแข็งดี จัดเสิร์ฟ
 ที่มา แม่บ้าน ปีที่ 27 ฉบับที่ 410 กรกฎาคม 2546

มัฟฟินช็อกโกแลต

มัฟฟินช็อกโกแลต
 ส่วนผสม
 แป้งสาลีอเนกประสงค์ 300 กรัม
 เนยสด 150 กรัม
 น้ำตาลทราย 120 กรัม
 นมสด 50 กรัม
 เกลือ 1 / 4 ช้อนชา
 ไข่ไก่ 2 ฟอง
 ผงฟู 1 ช้อนชา
 ผงช็อกโกแลต 4 ช้อนโต๊ะ
 วิธีทำ
 ร่อนแป้ง ผงช็อกโกแลตและผงฟู รวมกันพักไว้ ตีเนยสดกับน้ำตาล และเกลือให้ขึ้นฟู ใส่ไข่ทีละฟองตีให้เข้ากันเติมนมสด ผสมให้เข้ากัน เติมส่วนผสมของแป้งที่ร่อนไว้ผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยที่รองด้วยกระดาษ นำเข้าอบใช้อุณหภูมิ 200° C ใช้เวลาประมาณ 15 – 20 นาที หรือจนกระทั่งสุก และนำออกจากเตาพักไว้บนตะแกรงทิ้งให้เย็น 
ที่มา แม่บ้าน ปีที่ 27 ฉบับที่ 410 กรกฎาคม 2546

ขนมหม้อแกงเผือก

ขนมหม้อแกงเผือก
ส่วนผสม ขนมหม้อแกงเผือก
 น้ำตาลปึก 1 ถ้วยตวง
 กะทิ 1 ถ้วยตวง
 ไข่ 1 ถ้วยตวง 
เผือกนึ่งยีละเอียด 1 ถ้วยตวง 
น้ำมัน 1/4 ถ้วยตวง
 หัวหอมซอย 1/3 ถ้วยตวง
 วิธีทำ ขนมหม้อแกงเผือก
 1. นำน้ำตาล มาผสมลงในน้ำกะทิ คนให้น้ำตาลละลาย แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
 2. ตีไข่ ใส่ลงในเผือก คนให้เข้ากัน แล้วนำกะทิที่ผสมไว้เทลง แล้วคนเข้าให้เขากันอีกรอบ 3. ตั้งกระทะ เจียวหอมให้พอเหลือง
 4. ตักขนมที่ผสมไว้ใส่ถาด เพื่อนำเข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิ 350 F จนสังเกตุผิวของขนมเป็นสีเหลืองทอง ซึ่งปรกติจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที
 5. นำออกจากเตา โรยหน้าด้วยหอมเจียวก็เป็นอันเสร็จ ขนมหม้อแกงเผือก ของพวกเรา ขอบคุณที่มา : www.hilunch.com


รูห์บาร์บทาร์ต (Rhubarb Tart)

รูห์บาร์บทาร์ต (Rhubarb Tart)
 รูห์บาร์บ สตอร์วเบอร์รี่ทาร์ต รูห์บาร์บหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ๒๕๐ กรัม
 สตอร์วเบอร์รี่สด หรือแช่แข็ง ๒๐๐ กรัม (ผ่าสี่)
 น้ำตาลทราย ๓/๔ ถ้วย
 น้ำเลมอน ๑ ช้อนโต๊ะ
 แป้งข้าวโพด ๒ ช้อนโต๊ะ
 เกลือ ๑/๔ ช้อนชา 
ขั้นตอนการทำ
 ๑.ผสมรูห์บาร์บและสตอร์วเบอร์รี่เข้าด้วยกัน
 ๒.ตามด้วยน้ำตาลทราย แป้งข้าวโพด เกลือ และน้ำเลมอน
 ๓.คนส่วนผสมให้เข้ากัน พักไว้ก่อน พอครัสท์เริ่มเย็นค่อยเทส่วนผสมนี้ลงไปในครัสท์นะคะ
 ๔.พอครัสเริ่มคลายร้อนก็เทส่วนผสมรูห์บาร์บลงไป
 ๕.นำเข้าเตาอบ อบนานประมาณ ๔๐ นาที ขั้นตอนนี้แม่ปูกลัวครัสท์ไหม้ก็เลยเอาพิมพ์ทาร์ตอีกใบครอบ แต่ปรากฏว่าพอเอาเข้าเตาอบออกไปทำสวนแล้วก็ลืมเลยค่ะ ขนาดตั้งเวลาไว้แล้วก็ไม่ได้ยิน แหะๆ ครัสท์ก็เลยสีเข้มไปหน่อย ถึงจะครอบไว้แต่ถ้าอบนานเกินไปสีก็เข้มได้ดังนี้แล วิธีนี้ครอบแบบนี้จริงๆเหมาะกับการอบพายมากค่ะ อบเสร็จแล้วจ้า รอให้ทาร์ตอยู่ตัวก่อนแล้วค่อยตัดเสิร์ฟนะคะ พ่อบ้านแม่ปูชอบกินเย็นๆค่ะ กินกับไอศกรีมอร่อยมากๆเลย โรยด้วยถั่วพิตาชิโอ เพิ่มสีสันให้สวยงามน่ารัก ขนาดครัสท์ไหม้ๆยังอร่อยเลยค่ะ ประดับด้วยใบสะระแหน่ตามความชอบ 
 ที่มาจาก : Bloggang.com

เลดี้ครีมส้ม

เลดี้ครีมส้ม 
       สิ่งที่ต้องเตรียม 
แป้งสาลีทำเค้ก 300 กรัม
 เกลือป่นผสมไอโอดีน 1/4 ช้อนชา
 ผงฟู 1 ช้อนชา
 โอวาเล็ต 15 กรัม
 วานิลลาชนิดผง 1/2 ช้อนชา 
ไข่ไก่ 5 ฟอง
น้ำตาลทราย 200 กรัม
 บัตเตอร์ครีมแผยมมาร์มาเลด เชอร์รี่มีก้าน และน้ำตาลไอซิ่ง สำหรับโรยหน้า
 วิธีทำ 
ร่อนแป้งสาลีทำเค้กกับเกลือป่นผสมไอโอดีน วานิลลาชนิดผงและผงฟู เข้าด้วยกัน ตีไข่ไก่กับโอวาเล็ตกับน้ำตาลทรายจนขึ้นฟู ค่อย ๆ ใส่แป้งที่ร่อนเตรียมไว้ เคล้าผสมเบา ๆ มือจนเข้ากันดี ตักใส่ถุงบีบ บีบลงบนถาดที่ทาเนยขาวเตรียมไว้ โรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่ง นำเข้าเตาอบไฟ 330 องศาฟาเรนไฮด์ นานประมาณ 10-12 นาที หรือจนสุก เมื่อขนมเย็นสนิทดีแล้ว สอดไส้ด้วยบัตเตอร์ครีมที่ผสมแยมมาร์มาเลต แต่งสวยด้วยเชอรี่มีก้าน 
ขอบคุณที่มา :ตำราเบเกอรี่ ชุดที่ 1 ขนมเค้ก

เค้กนมสด

  
                                           เค้กนมสด
                                       ส่วนผสมเนื้อเค้ก
                                        แป้งเค้ก 265 กรัม
                                       เนยสดชนิดจืด 185 กรัม
                                      น้ำตาลทรายป่น 250 กรัม
                                      ผงฟู 1 ช้อนชา เกลือ ? ช้อนชา
                                      ไข่ไก่ 4 ฟอง 
                                      นมสด 160 กรัม 
                                     กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา 
                             สวนผสมครีมแต่งหน้า 
                                   วิปปิ้งครีม 2 1/2 ถ้วย 
                                   น้ำตาลไอซิ่ง 1 ถ้วย
                                   เกลือ 1 ช้อนชา
                                  วานิลา 2 ช้อนชา
                                  นมสด 1 1/2 ถ้วย 
           ผลไม้ตามชอบ เช่น สตรอเบอร์รี่ , เชอร์รี่ , กีวี ฯ ถุงบีบ และ หัวบีบ 
       วิธีทำตัวเค้ก
1. ร่อนแป้งเค้ก , ผงฟู และเกลือ รวมกันพักไว้
2. ตีเนยสดพอขึ้นฟู ด้วยความเร็วปานกลาง เติมน้ำตาลทรายป่นทีละนิดจนหมด ตีจนขึ้นฟูเนียน
3. ใส่ไข่ไก่ทีละฟอง ตีให้เข้ากัน ใส่กลิ่นวานิลา
4. ใส่แป้งสลับกับนมสดจนหมด ผสมโดยใช้ความเร็วต่ำให้เข้ากันดี
5. เทส่วนผสมที่ได้ใส่พิมพ์กลมขนาด 2 ปอนด์ 2 พิมพ์ที่ทาเนยขาว วางกระดาษไขทาเนยขาวทับแล้ว 6. นำเข้าเตาอบไฟฟ้า โปรแกรมไฟบนล่างที่อุณหภูมิ 180 ?C ประมาณ 35-40 นาทีหรือจนสุก
7. เมื่อเค้กสุกพักให้เย็นบนตะแกรงแล้วค่อยเลื่อยเค้กออกเป็น 2 ชิ้น
 วิธีทำครีมแต่งหน้า
1. ตีวิปปิ้งครีมให้เป็นฟองแล้วค่อย ๆ เติมนมลงไป ตีด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้นฟู ใส่ไอซิ่ง เกลือ ตีต่อ ใส่วานิลาตีจนเนียน ตั้งยอด
2. นำไปแต่งหน้าเค้ก
 การประกอบเค้ก 
1. วางเค้กชิ้นที่ 1 แล้วปาดครีมให้ทั่ว จึงนำเค้กชิ้นที่ 2 วางทับ นำวิปปิ้งครีมมาปาดให้ทั่วก้อนเค้กทั้งด้านหน้าและด้านข้าง
2. บีบวิปครีมลงบนเค้ก แล้งจึงนำผลไม้ตามชอบมาตกแต่งด้านบนเค้กให้สวยงาม
                  ขอบคุณที่มา-taliw.com